อัปเดตสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย หลังเกิดเหตุที่ห้างพารากอน

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้สูญเสีย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 เกิดเหตุวัยรุ่นชายใช้อาวุธปืนยิงในห้างสยามพารากอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยที่หนึ่งในผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมีชาวจีนอยู่ด้วย ทำให้เกิดกระแสพูดถึงไม่น้อยในสังคมออนไลน์ของจีนอย่างเวยปั๋ว (Weibo)

จากการไล่สำรวจความเห็นพบว่า ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางของความเสียใจ หวาดกลัว และโกรธแค้น รวมถึงตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย

ผู้ใช้เวยปั๋วชื่อ เทพแสงจันทร์โฮ่วซา บล็อกเกอร์สายทหารซึ่งมีผู้ติดตาม 3.2 ล้านคน ระบุว่า

“ผู้เยาว์อายุ 14 ปี เป็นแฟนคลับอเมริกา ฝึกยิงปืน มีความเป็นไปได้สูงที่จะป่วยทางจิต เขาจะไม่เข้าคุกแน่นอน บอกได้แค่ว่าโชคร้าย”

ซึ่งก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์บอกว่า “ประเทศไทยไม่ปลอดภัยมาก แค่ไปเที่ยวก็เสียชีวิต!”, “ไปเอาปืนมาจากที่ไหน? เพื่อทำลายความสัมพันธ์จีน-ไทยและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเหรอ?”, “ตอนนี้ฉันไม่กล้าไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยซ้ำ มันไม่ปลอดภัยเลย”

ผู้ใช้เวยปั๋วอีกรายหนึ่ง สหายจ้าวเจิง ซึ่งมีผู้ติดตาม 1 ล้านคน บอกว่า

“เกิดการโจมตีก่อการร้ายในประเทศไทย ชาวจีนคนหนึ่งถูกสังหาร และอีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่ตำรวจจับคนร้ายได้ เขาก็ปลอบใจว่า “ไม่เป็นไร เขาปลอดภัยแล้ว” คนร้ายสวมหมวกธงชาติอเมริกัน ครอบครัวของพวกเขาเดินทางไปต่างประเทศอย่างมีความสุข แต่สมาชิกในครอบครัวกลับถูกยิงเสียชีวิต ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าจริง ๆ"

เขาเสริมว่า

“บางประเทศไม่ได้ปลอดภัย ดังนั้นอย่าหลงกลกับโปรโมชันท่องเที่ยวต่างๆ เป็นเรื่องจริงที่สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศหนาแน่น ดังนั้นถ้าต้องเดินทางไปต่างประเทศ ขอให้เลือกประเทศที่ปลอดภัยเป็นหลัก”

โดยมีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า “ปีที่แล้วก็มีคดียิงกันรุนแรงมากในประเทศไทย บอกตรง ๆ ประเทศไทยไม่ได้ห้ามสื่อลามก การพนัน ยาเสพติด ปืน และการเมืองก็ยังไม่มั่นคงมากนัก คุณต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถ้าจะเดินทางไป”

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ไทยพึ่งได้ทำการประกาศวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวจีน เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวจากจีน ถือเป็นกำลังซื้อหลักที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทย

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่น่าเศร้านี้เกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงผลกระทบทางด้านความกังวลและความรู้สึกที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยแรกๆ ที่ไม่เพียงแต่ชาวจีนเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทุกชาติ

การสูญเสียความไว้วางใจ ต่อมาตรการการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ต่างๆ การเข้าถึงของอาวุธปืน ว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานความมั่นคงจะจัดการกับเรื่องเหล่านี้อย่างไร

ซึ่งทั้งสองข้อนี้เป็นเรื่อง Safety และจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน และอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนเริ่มที่จะมองหาเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวทดแทน ซึ่งก็เป็นประเทศคู่แข่งของไทยที่ดูจะมีความปลอดภัยสูงกว่าไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น

สุดท้ายคือเรื่องการแจ้งเตือนภัย ซึ่งทางผมเองมองว่า ทางการบ้านเรามีการแจ้งเตือนภัยที่ยังล่าช้าอยู่เมื่อเทียบกับต่างประเทศ ที่มีแอปพลิเคชันแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน ภัยพิบัติ หรือการก่อการร้าย ที่รวดเร็วและเข้าถึงได้ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยว

ทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้แล้วลองแชร์ความคิดเห็นกันครับ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากน้อยเพียงใด และจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวมอย่างไรกันบ้างครับ

หากท่านชอบในบทความนี้และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ฝากกดไลก์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทีมงาน H+ Hotel Plus ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

H+ Hotel Plus ผู้ช่วยโรงแรมมืออาชีพ บริหารรายได้ให้พลัส